วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2555

ตรรกศาสตร์

ประพจน์

บทนิยาม
       

   ประพจน์ คือ ประโยค หรือข้อความที่อยู่ในรูปแบบประโยคบอกเล่า หรือประโยคปฏิเสธ 

ที่เป็นจริงหรือเป็นเท็จอย่างใดอย่างหนึ่ง
ตัวอย่างเช่น


• เชียงใหม่เป็นจังหวัดทางภาคใต้  เป็นประพจน์ เพราะเป็นประโยคบอกเล่าที่เป็นเท็จ
• ใครทำจานแตก
ไม่เป็นประพจน์ เพราะเป็นประโยคคำถามและบอก
ไม่ได้ว่าเป็นจริงหรือเท็จ
• -1 ไม่เป็นจำนวนเต็มบวก→ เป็นประพจน์ เพราะเป็นประโยคปฏิเสธที่มีค่าความ
จริงเป็นจริง
      นั่นคือ ประโยคคำถาม คำสั่ง ขอร้อง คำอุทาน หรือประโยคที่ไม่สามารถระบุค่าความจริงได้ไม่เป็นประพจน์


ประพจน์ที่สมมูลกัน และประพจน์ที่เป็นนิเสธกัน
ประพจน์ที่สมมูลกัน
           ประพจน์ 2 ประพจน์จะสมมูลกัน ก็ต่อเมื่อ ประพจน์ทั้งสองมีค่าความจริงเหมือนกันทุกกรณีของค่าความจริงของประพจน์ย่อย
ตัวอย่างประพจน์ที่สมมูลกันที่ควรทราบ มีดังนี้
p ∧ q
สมมูลกับ
q ∧ p
p ∨ q
สมมูลกับ
q ∨ p
(p ∧ q) ∧ r
สมมูลกับ
p ∧ (q ∧ r)
(p ∨ q) ∨ r
สมมูลกับ
p ∨ (q ∨ r)
p ∧ (q ∨ r)
สมมูลกับ
(p ∧ q) ∨ ( p ∧ r)
p ∨ (q ∧ r)
สมมูลกับ
(p ∨ q) ∧ ( p ∨ r)
p → q
สมมูลกับ
~p ∨ q
p → q
สมมูลกับ
~q → ~p
p ⇔ q
สมมูลกับ
(p → q) ∧ (q → p)
ประพจน์ที่เป็นนิเสธกัน
           ประพจน์ 2 ประพจน์เป็นนิเสธกัน ก็ต่อเมื่อ ประพจน์ทั้งสองมีค่าความจริงตรงข้ามกันทุกกรณีของค่าความจริงของประพจน์ย่อย
ตัวอย่างประพจน์ที่เป็นนิเสธกันที่ควรทราบ มีดังนี้
~(p ∧ q)
สมมูลกับ
~p ∨ ~q
~(p ∨ q)
สมมูลกับ
~p ∧ ~q
~(p → q)
สมมูลกับ
p ∧ ~q
~(p ⇔ q)
สมมูลกับ
(p ⇔ ~q) ∨(q ⇔ ~p)
~(p ⇔ q)
สมมูลกับ
(p ∧ ~q) ∨ ( q ∧~p)
พิสูจน์
จะเห็นว่า p ∧ q สมมูลกับ q ∧ p
         ~(p ∧ q) สมมูลกับ ~p ∨ ~q เป็นนิเสธของ p ∧ q


สัจนิรันดร์ 
     ประพจน์ที่เป็นสัจนิรันดร์ คือ ประพจน์ที่มีค่าความจริงเป็นจริง ทุกกรณีของประพจน์ย่อย
ตัวอย่างประพจน์ที่เป็นสัจนิรันดร์ที่ควรทราบ มีดังนี้
p ∨ ~q[ ~p ∧ ( p ∨ q)] → q
~(p ∧ ~q)[ ( p → q) ∧ ~q ] → ~p
(p ∧ q) → p(p ∧ q) ⇔ (q ∧ p)
(p ∧ q) → q(p ∨ q) ⇔ (q ∨ p)
p → (p ∨ q)(p → q) ⇔ (~p ∨ q)
q → (p ∨ q)(p → q) ⇔ (~q → ~p)
[ p ∧ ( p → q)] → q(~p ∨ q) ⇔ (~q → ~p)
[ ~p ∧ ( p → q)] → ~q( p ⇔ q) ⇔ [(p → q) ∧ (q → p)]
ข้อสังเกตประพจน์ที่สมมูลกัน เมื่อนำมาเชื่อมด้วยตัวเชื่อม ⇔ จะได้ประพจน์ใหม่ซึ่งเป็นสัจนิ
รันดร์ นั่นคือ ถ้า A และ B สมมูลกันแล้ว A ⇔ B เป็นสัจนิรันดร์

พิสูจน์

ประโยคเปิด และตัวบ่งปริมาณ

ประโยคเปิด
บทนิยาม
ประโยคเปิด คือ ประโยคบอกเล่า หรือประโยคปฏิเสธที่ประกอบด้วยตัวแปร
ทำให้ไม่เป็นประพจน์ และเมื่อแทนที่ตัวแปรด้วยสมาชิกในเอกภพสัมพัทธ์แล้วจะได้ประพจน์
          เราสามารถเขียนแทนประโยคเปิดที่ประกอบด้วยตัวแปร x ด้วยสัญลักษณ์ P(x) หรือ
 Q(x) และเขียนแทนประโยคเปิดที่ประกอบด้วยตัวแปร x และ y ด้วยสัญลักษณ์ P(x,y) หรือ
 Q(x,y)
ตัวอย่างเช่น
• เขาเป็นคนดี ⇒ เป็นประโยคเปิดที่ประกอบด้วยตัวแปร “เขา”
• x > 3 ⇒ เป็นประโยคเปิดที่ประกอบด้วยตัวแปร “x”
ตัวบ่งปริมาณ
          ตัวบ่งปริมาณ เป็นตัวระบุจำนวนสมาชิกในเอกภพสัมพัทธ์ที่ทำให้ประโยคเปิดกลาย
เป็นประพจน์ ตัวบ่งปริมาณมี 2 ชนิด คือ
1. ตัวบ่งปริมาณที่กล่าวถึง “สมาชิกทุกตัวในเอกภพสัมพัทธ์”
ซึ่งเขียนแทนได้ด้วยสัญลักษณ์ “∀” อ่านว่า”สำหรับสมาชิก x ทุกตัว”
2. ตัวบ่งปริมาณที่กล่าวถึง “สมาชิกบางตัวในเอกภพสัมพัทธ์
ซึ่งเขียนแทนได้ด้วยสัญลักษณ์ “∃” อ่านว่า “สำหรับสมาชิก x บางตัว”
ค่าความจริงของประพจน์ที่มีตัวบ่งปริมาณ
1. ∀x[P(x)] มีค่าความจริงเป็นจริง เมื่อ x ทุกตัวในเอกภพสัมพัทธ์ทำให้ P(x) เป็นจริง
2. ∀x[P(x)] มีค่าความจริงเป็นเท็จ เมื่อมี x อย่างน้อย 1 ตัวที่ทำให้ P(x) เป็นเท็จ
3. ∃x[P(x)] มีค่าความจริงเป็นจริง เมื่อมี x อย่าน้อย 1 ตัวที่ทำให้ P(x) เป็นจริง
4. ∃x[P(x)] มีค่าความจริงเป็นเท็จ เมื่อไม่มี x ใดๆ ในเอกภพสัมพัทธ์ที่ทำให้ P(x) เป็นจริง
นิเสธของประพจน์ที่มีตัวบ่งปริมาณ
~∀x[P(x)]สมมูลกับ∃x[~P(x)]
~∃x[P(x)]สมมูลกับ∀x[~P(x)]
~∀x[~P(x)]สมมูลกับ∃x[P(x)]
~∃x[~P(x)]สมมูลกับ∀x[P(x)]
ตัวอย่างเช่น
• ∀x[x < 0] เมื่อ  u = เซตของจำนวนเต็ม
มีค่าความจริงเป็นเท็จ เพราะเมื่อแทน x เป็นจำนวนเต็มบวกและศูนย์ จะทำให้ x < 0 เป็นเท็จ
• ∃x[x < 0]เมื่อ  u = เซตของจำนวนเต็ม
มีค่าความจริงเป็นจริง เพราะเมื่อแทน x เป็นจำนวนเต็มลบ จะทำให้ x < 0 เป็นจริง

การอ้างเหตุผล

  การอ้างเหตุผล คือ การอ้างว่า "สำหรับเหตุการณ์ P1, P2,..., Pn ชุดหนึ่ง สามารสรุปผลที่ตามมา C ได้"
การอ้างเหตุผลประกอบด้วย 2 ส่วน คือ
1. เหตุ หรือสิ่งที่กำหนดให้
2. ผล หรือสิ่งที่ตามมา
           สำหรับการพิจารณาว่า การอ้างเหตุผลนั้นสมเหตุสมผลหรือไม่นั้นพิจารณาได้จาก
ประพจน์ ( P1 ∧ P2 ∧ ... Pn) → C ถ้าประพจน์ดังกล่าวมีค่าความจริงเป็นจริงเสมอ (เป็น
สัจนิรันดร์) เราสามารถสรุปได้ว่าการอ้างเหตุผลดังกล่าวเป็นการอ้างที่สมเหตุสมผล
ตัวอย่างเช่นเหตุ1. p → q
2. p
ผลq

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น